ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

รู้หรือไม่? หน้าเว็บไซต์ที่โหลดช้ามักนำไปสู่การขายที่ช้าลงด้วย

 


รู้หรือไม่? หน้าเว็บไซต์ที่โหลดช้ามักนำไปสู่การขายที่ช้าลงด้วย


ทุกวันนี้แทบจะไม่มีใครชอบการรอคิวนานๆ การรอคิวโดยเฉพาะตอนที่เรากำลังเร่งรีบจะทำให้เกิดความรู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ ยิ่งตอนที่ไปซื้อของในห้างสรรพสินค้าและกำลังรอที่จะจ่ายเงินที่แคชเชียร์ มีคนอยู่ข้างหน้าเราสี่หรือห้าคน แต่ดูเหมือนว่าแคชเชียร์เพิ่งจะหยุดพัก เราอาจจะบ่นด้วยความหงุดหงิดว่าพวกเขาคงไม่รู้หรือไงว่ามีคนรออยู่กี่คน!

หากเราเคยเข้าไปอ่านรีวิวของร้านอาหารหรือร้านค้าปลีกใดก็ตาม สิ่งหนึ่งที่พวกเรามักจะพบคือรีวิวที่เกี่ยวข้องกับความเร็วในการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะการวิจารณ์ที่เร่าร้อนเกี่ยวกับการรอบริการหนึ่งชั่วโมง หรืออาจจะเห็นบทวิจารณ์เชิงลบอื่นๆ แต่ลงท้ายด้วย "...แต่อย่างน้อยพวกเขาก็บริการรวดเร็ว"

แม้ว่าเว็บไซต์และร้านค้าออนไลน์จะไม่ประสบกับปัญหา "การต่อแถวยาว" แต่ลูกค้ายังคงคาดหวังประสบการณ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ นักชอปปิงออนไลน์เกือบครึ่งคาดหวังว่าหน้าเว็บจะโหลดได้ภายในสองวินาทีหรือน้อยกว่านั้น และประมาณ 80% กล่าวว่าเว็บไซต์ที่ทำงานช้าไม่เอื้ออำนวยต่อการซื้อสินค้าและบริการ สิ่งสำคัญที่เราควรรู้คือแม้ว่าการชอปปิงออนไลน์จะหลีกเลี่ยงความไม่สะดวกบางประการแบบเดิมๆ แต่ก็ยังช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเดินหนีการซื้อได้ง่ายๆ ด้วยเช่นกัน 

เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเว็บไซต์ของเราทำงานได้ดีพอที่ลูกค้าจะไม่ละทิ้งการซื้อ ขั้นตอนแรกคือการใช้เครื่องมือออนไลน์ เช่น Google Page Speed ​​Insights เพื่อกำหนดเวลาโหลดเฉลี่ยสำหรับเว็บไซต์ของเรา ทั้งนี้ เครื่องมือของ Google ยังจะให้คำแนะนำสำหรับการปรับแต่งที่จะช่วยเพิ่มเวลาในการโหลด

สมมติเราได้วิเคราะห์เว็บไซต์ของเราแล้ว และรายงานความเร็วในการโหลดเฉลี่ยอยู่ที่ 3 วินาที ซึ่งค่อนข้างใกล้เคียงกับความคาดหวังคือ 2 วินาที ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือทุกๆ วินาทีของการโหลดที่เกิน 2 วินาที อัตราการแปลงจะลดลงโดยเฉลี่ย 7% ในแง่นี้หมายความว่าหากเว็บไซต์ของเราสร้างรายได้ $1,000 ต่อวัน การโหลดช้าอีกหนึ่งวินาทีที่เพิ่มขึ้นจะแปลงเป็น $70 ในรายได้ที่สูญเสียไป และหากหน้าเว็บไซต์ใช้เวลาโหลดเฉลี่ย 4 วินาที รายได้ที่สูญเสียไปจะเพิ่มเป็นสองเท่าที่ $140 

ข่าวดีก็คือเราสามารถปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์ได้ และการปรับปรุงความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ก็มักจะไม่ซับซ้อน หากต้องการเพิ่มความเร็วหน้าเว็บไซต์เพียงระบุสิ่งที่ทำให้เกิดความเฉื่อย จากนั้นก็แก้ไขสาเหตุที่แท้จริง เช่น การถอนการติดตั้งปลั๊กอินที่ไม่จำเป็นหรือล้าสมัย การลดขนาดหรือจำนวนรูปภาพ และปรับแต่งวิธีที่เว็บไซต์โหลดเนื้อหา วิธีการดังกล่าวเป็นวิธีทั่วไปในการปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์ เมื่อเวลาในการโหลดสั้นลง ไม่เพียงแต่อัตราการแปลงจะดีขึ้น แต่อันดับผลการค้นหาของเว็บไซต์จะเพิ่มขึ้นด้วย การดูหน้าเว็บไซต์ก็จะเพิ่มขึ้น โอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำก็เกิดขึ้นได้ไม่ยาก

ที่มา: SEO Winner รับทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์ ให้ติดอันดับ Google ติดหน้าแรก Google

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เช็กกันหรือยัง? Top 5 เทรนด์ SEO ในปี 2022

  เราต่างทราบกันดีว่า Search Engine Optimization หรือที่เรียกกันติดปากว่า SEO นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรา สิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO รู้ดีคือ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอ เพราะกลยุทธ์ที่เก่ากว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่กลยุทธ์ที่ล้าสมัยบางอย่าง เช่น การใช้คำหลักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าแนวโน้ม SEO ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2022 มีอะไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ! 1. ปัญญาประดิษฐ์จะมีบทบาทมากขึ้นใน SEO ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาออนไลน์ AI ก็จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ SEO ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ AI algorithm RankBrain ของ Google เนื่องจากสิ่งนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญที่สุดของ Google (search engine results pages) ในปี 2022 เพราะตั...

BoomTharis เผยความท้าทายการทำ VDO Content

  นาทีนี้ต้องบอกว่าเขาคือชายหนุ่มที่ Hot ที่สุดของวงการ Influencer ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากชายที่ชื่อ “บูมธริศ” BoomTharis หรือ “ธริศร ธรณวิกรัย” ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเขาในมุมสบายๆ ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่ก่อนมาเป็น Youtube Creator ชื่อดัง จนกระทั่งถึงวันนี้ ที่มียอดซัปสไครบน Youtube Channel อยู่ที่ 1.18 ล้านคน และผู้ติดตามใน Facebook 5.9 แสนฟอลโลว์เวอร์ กับภาพลักษณ์ของ “บูมธริศ” กลายเป็นโลโก้ของความ Luxury ไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เรียบง่าย สุภาพ ออกจะติดขี้อายนิดๆ ด้วย และที่สำคัญคือมีมุมการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่สามารถเป็นข้อแนะนำให้กับทั้ง Influencer และ Brand ได้อีกด้วย มารู้จักตัวตนของ “บูมธริศ” ชายผู้ชักชวนทุกคนมารู้จัก Lifestyle และเรื่องราวรอบตัวของเขานอกเหนือจากความ Luxury เส้นทางเริ่มต้นก่อนเปิด Youtube Channel บูมเล่าว่าจุดเริ่มต้นของเขามาจากการเป็นช่างภาพที่เว็บไซต์ Think of Living.com ก่อน จากนั้นก็เริ่มมาเป็น Editor Content เขียนคอนเทนต์ให้กับเว็บ ก่อนที่จะปรับจากบทความเป็นรูปแบบวิดีโอ โดยทำให้กับ Think of Living.com อยู่ประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมาเป็นชาแน...

จะทำอย่างไร เมื่อเจอปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google

ปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอกันบ่อยมากที่สุด โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่ได้ขยายธุรกิจมาขายของบนออนไลน์ ได้พบว่าเว็บของเราไม่สามารถทำอันดับที่ดีบน Google ได้เลย ถึงแม้ว่าจะทำการซื้อโฆษณา หรือทำ SEO แล้ว แต่ก็ยังไม่ติดอันดับ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร เว็บไซต์นิ่ง โหลดช้า ถ้าหากหัวข้อ หรือลิงก์ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมีการกดเข้าไปแล้ว แต่กลับไปต่อไม่ได้ หรือโหลดช้า ไม่ว่าจะเพราะใช้ภาพใหญ่เกินไป ทำกราฟฟิกมากเกินไปก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาด้านเทคนิคที่ต้องตระหนักเป็นอันดับแรกสุดเสมอ ดังนั้นเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่าย เพื่อขายสินค้า และบริการเป็นหลัก ควรต้องระวังในเรื่องนี้อย่างมาก ขาด Keywords ที่จำเป็น เนื่องจากโครงสร้าง SEO Content นั้น หัวใจสำคัญคือต้องมี Focus Keyword ซึ่งถือว่าเป็น "คำหลัก" เลย เป็นการค้นหาที่ Google ต้องการมากที่สุด ถ้าหากเราขาดตรงนี้ หรือมีไม่มากพอใน Content นั้นๆ การค้นหาก็จะทำได้ยาก สิ่งที่ควรมีก็คือความชัดเจน เพื่อบอกว่าเว็บของเราเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร และขายอะไร อาจจะมีหลายครั้งที่ Content ของเว็บเร...