ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Remarketing กับ Retargeting ความเหมือนที่แตกต่าง

Remarketing กับ Retargeting ความเหมือนที่แตกต่าง

 

Remarketing กับ Retargeting  จัดว่าเป็นรูปแบบการซื้อโฆษณาออนไลน์  ที่เป็นงานโฆษณาประเภทที่มีประสิทธิภาพสูง ถ้าพูดถึงเรื่องเทคนิคการลงโฆษณาออนไลน์แบบขั้นสูงนั้น แน่นอนว่าสายงานด้านการตลาดดิจิทัลต้องรู้จักคำนี้อย่างแน่นอน แต่ใครหลายๆ คน ก็มักจะคิดว่า 2 คำนี้มีความหมายที่คล้ายกัน ทำงานเหมือนกัน ไม่มีความแตกต่างกัน แต่แท้จริงแล้ว.. 2 คำนี้ แตกต่างกันอย่างมากเลยล่ะค่ะ 

สำหรับบทความในวันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ ว่า Remarketing กับ Retargeting เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร 

- Remarketing
Remarketing เป็นการตลาดแบบติดตาม คือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เคยเข้ามายังเว็บไซต์ แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อสินค้า เราจะทำการติดตามลูกค้าด้วยรูปแบบสื่อโฆษณาที่ไปโผล่ยังเว็บไซต์อื่นๆ ในลักษณะของ Banner หรือในช่องทางการค้นหาต่างๆ โดยเก็บข้อมูลจากผู้ที่สนใจมาทำการตลาดซ้ำอีกครั้ง และนำข้อมูลไปใช้ติดตามความสนใจ พฤติกรรมการใช้งาน เพื่อนำไปสู่การปิดการขายให้ได้นั่นเองค่ะ 

โดย Remarketing จะทำให้คุณจัดวางตำแหน่งของโฆษณาที่แสดงต่อกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ได้อย่างมีกลยุทธ์ และเหมาะสม

การทำ Remarketing นั้น จะเห็นผลชัดเจนที่สุดกับเว็บไซต์ประเภท E-Commerce เนื่องจากลักษณะของกลยุทธ์นั้น มีจุดมุ่งหมายคือ “มีโอกาสซื้อ และกระตุ้นให้กลับมาซื้ออีกครั้ง” ดังนั้นหากเว็บไซต์ของคุณมีสินค้าอยู่ในเว็บแล้วล่ะก็ ให้ลองเริ่มทำ Remarketing จาก ตะกร้าสินค้า หากมีลูกค้าคนไหน ที่ทำการดูสินค้าของคุณ และมีแนวโน้มที่จะซื้อแล้วเช่น หยิบสินค้าใส่ตะกร้า เช็คค่าจัดส่ง นั่นหมายความว่าลูกค้าสนใจสินค้าของคุณมากๆ แต่อาจจะมีสิ่งรบกวน หรืออุปสรรค ที่ทำให้เค้าล้มเลิกการสั่งซื้อไป Remarketing ก็จะไปทำการย้ำเตือนว่า อย่าลืมมาทำรายการสั่งซื้อให้สำเร็จนั่นเอง

- Retargeting 
สำหรับ Retargeting ก็เป็นการตลาดแบบติดตามกลุ่มลูกค้าเช่นกัน การทำงานจะคล้ายกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ Retargeting จะใช้กับการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยอิงจากคุ้กกี้ แต่ Remarketing มักใช้จากการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อนำไปทำการตลาด และให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาใช้บริการ

เมื่อได้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการมาแล้ว สามารถนำไปตั้งค่าตามแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อทำ Retargeting ได้ เช่น Google Ads, Google Analytics, Facebook Ads เป็นต้น จะช่วยเพิ่ม Engagement และ Conversion สูงกว่าแคมเปญที่ไม่มีการกำหนดเป้าหมายแบบนี้ 

  • แต่สิ่งที่ Remarketing กับ Retargeting มีเหมือนกันมากๆ ก็คือ คุณจะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิม หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เจาะจงมากยิ่งขึ้น และโฆษณาที่ทำจะมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ประหยัดงบ แต่ได้ผลดี คุ้มกับเงินที่จ่ายไปอย่างแน่นอน


ที่มา: SEO Winner รับทำ SEO โปรโมทเว็บไซต์ ให้ติดอันดับ Google ติดหน้าแรก Google

ความคิดเห็น

  1. รับทำเว็บไซต์
    เว็บไซต์เปรียบเสมือนตัวแทนธุรกิจ เมื่อมีเว็บไซต์แต่ไม่มีคนเข้าถึงก็เปล่าประโยชน์ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่มี เราขอแนะนำ SEO เครื่องมือที่จะช่วยให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักมากขึ้น พร้อมให้คำแนะก่อนเริ่มงานฟรี ราคาคุยกันได้ ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน
    www.wynnsoft-solution.com

    รับทำเว็บไซต์

    ตอบลบ
  2. หางาน น่าน BESTJOBTH เป็นบริษัทจัดหางานอันดับต้นๆ เป็นตัวกลางระหว่างผู้หางาน และบริษัทที่รับสมัครงาน 2564 โดยรวบรวมงานที่หลากหลาย มีงานทุกสายอาชีพ ครบทุกตำแหน่งงาน รวมถึงงานในประเทศและงานต่างประเทศ ทีมงานของเราอัปเดทตำแหน่งงานใหม่ทุกวัน พร้อมเสิร์ฟตำแหน่งงานที่หลากหลาย ครอบคลุมงาน Full-time และงานพาร์มไทม์ เหมาะกับผู้หางาน 2564 ไม่จำกัดวุฒิ

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เช็กกันหรือยัง? Top 5 เทรนด์ SEO ในปี 2022

  เราต่างทราบกันดีว่า Search Engine Optimization หรือที่เรียกกันติดปากว่า SEO นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรา สิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO รู้ดีคือ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอ เพราะกลยุทธ์ที่เก่ากว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่กลยุทธ์ที่ล้าสมัยบางอย่าง เช่น การใช้คำหลักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าแนวโน้ม SEO ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2022 มีอะไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ! 1. ปัญญาประดิษฐ์จะมีบทบาทมากขึ้นใน SEO ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาออนไลน์ AI ก็จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ SEO ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ AI algorithm RankBrain ของ Google เนื่องจากสิ่งนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญที่สุดของ Google (search engine results pages) ในปี 2022 เพราะตั...

BoomTharis เผยความท้าทายการทำ VDO Content

  นาทีนี้ต้องบอกว่าเขาคือชายหนุ่มที่ Hot ที่สุดของวงการ Influencer ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากชายที่ชื่อ “บูมธริศ” BoomTharis หรือ “ธริศร ธรณวิกรัย” ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเขาในมุมสบายๆ ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่ก่อนมาเป็น Youtube Creator ชื่อดัง จนกระทั่งถึงวันนี้ ที่มียอดซัปสไครบน Youtube Channel อยู่ที่ 1.18 ล้านคน และผู้ติดตามใน Facebook 5.9 แสนฟอลโลว์เวอร์ กับภาพลักษณ์ของ “บูมธริศ” กลายเป็นโลโก้ของความ Luxury ไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เรียบง่าย สุภาพ ออกจะติดขี้อายนิดๆ ด้วย และที่สำคัญคือมีมุมการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่สามารถเป็นข้อแนะนำให้กับทั้ง Influencer และ Brand ได้อีกด้วย มารู้จักตัวตนของ “บูมธริศ” ชายผู้ชักชวนทุกคนมารู้จัก Lifestyle และเรื่องราวรอบตัวของเขานอกเหนือจากความ Luxury เส้นทางเริ่มต้นก่อนเปิด Youtube Channel บูมเล่าว่าจุดเริ่มต้นของเขามาจากการเป็นช่างภาพที่เว็บไซต์ Think of Living.com ก่อน จากนั้นก็เริ่มมาเป็น Editor Content เขียนคอนเทนต์ให้กับเว็บ ก่อนที่จะปรับจากบทความเป็นรูปแบบวิดีโอ โดยทำให้กับ Think of Living.com อยู่ประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมาเป็นชาแน...

จะทำอย่างไร เมื่อเจอปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google

ปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอกันบ่อยมากที่สุด โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่ได้ขยายธุรกิจมาขายของบนออนไลน์ ได้พบว่าเว็บของเราไม่สามารถทำอันดับที่ดีบน Google ได้เลย ถึงแม้ว่าจะทำการซื้อโฆษณา หรือทำ SEO แล้ว แต่ก็ยังไม่ติดอันดับ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร เว็บไซต์นิ่ง โหลดช้า ถ้าหากหัวข้อ หรือลิงก์ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมีการกดเข้าไปแล้ว แต่กลับไปต่อไม่ได้ หรือโหลดช้า ไม่ว่าจะเพราะใช้ภาพใหญ่เกินไป ทำกราฟฟิกมากเกินไปก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาด้านเทคนิคที่ต้องตระหนักเป็นอันดับแรกสุดเสมอ ดังนั้นเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่าย เพื่อขายสินค้า และบริการเป็นหลัก ควรต้องระวังในเรื่องนี้อย่างมาก ขาด Keywords ที่จำเป็น เนื่องจากโครงสร้าง SEO Content นั้น หัวใจสำคัญคือต้องมี Focus Keyword ซึ่งถือว่าเป็น "คำหลัก" เลย เป็นการค้นหาที่ Google ต้องการมากที่สุด ถ้าหากเราขาดตรงนี้ หรือมีไม่มากพอใน Content นั้นๆ การค้นหาก็จะทำได้ยาก สิ่งที่ควรมีก็คือความชัดเจน เพื่อบอกว่าเว็บของเราเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร และขายอะไร อาจจะมีหลายครั้งที่ Content ของเว็บเร...