ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Ahrefs หนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ SEO ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด

Ahrefs หนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ SEO ที่โดดเด่นที่สุดในตลาด

ทุกวันนี้เรามีเครื่องมือในการทำ SEO ให้เลือกใช้มากมายทั้งฟรี และเสียเงิน แน่นอนว่าเครื่องมือแต่ละตัวก็มีข้อดี และข้อเสียต่างกันไป วันนี้เราจะมาพูดถึง Ahrefs หนึ่งในเครื่องมือการวิเคราะห์ SEO ที่โดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งในตลาด เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการทำ SEO ที่ค่อนข้างจะครอบคลุมการใช้งานด้านต่างๆ ของคนทำ SEO ไว้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Keyword Analysis, Backlink Analysis, Competitor Analysis และการทำ Website Audit ซึ่งเครื่องมือสำคัญๆ ของ Ahrefs จะแบ่งออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่

- Site Explorer : เป็นกลุ่มรีพอร์ที่ใช้วิเคราะห์เกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เราสนใจไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ตัวเองหรือเว็บไซต์ของคู่แข่ง โดยที่รีพอร์ทย่อยๆ จะถูกจัดกลุ่มเป็นหัวข้อต่างๆ เช่น รีพอร์ทกลุ่ม Backlink Profile ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Backlinks ของเว็บไซต์ รีพอร์ท Organic Search ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Organic Keyword และ Top pages ที่มี Organic Traffic สูงๆ เป็นต้น

- Keyword Explorer : เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์เกี่ยวกับ Keyword ที่เราสนใจ ระบบจะแสดงตัวเลข KD (Keyword Difficulty) ให้ทราบว่าเป็น Keyword ที่มีความยากมากน้อยแค่ไหนในการทำ SEO นอกจากนั้นยังบอกถึงปริมาณการค้นหาของคำนั้น รวมไปถึงแนะนำ Keyword อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และใกล้เคียงกับคำที่เราสนใจ เครื่องมือนี้เหมาะมากๆ สำหรับการหา Keyword และ Topic Idea ในการวาง Content Strategy

- Site Audit : ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ฟีเจอร์สำคัญที่เป็นความสามารถเด่นของ Tool นี้ รีพอร์ทกลุ่มนี้ถูกสร้างขึ้นจากการที่ Ahrefs ส่ง Bot เข้ามา Crawl เว็บไซต์ของเรา แล้วสรุปปัญหาต่างๆ ออกมาให้เราสามารถนำไปแอคชั่นต่อได้ทันที เช่น หน้าไหนบ้างที่ไม่มีการเขียน Title Description เอาไว้ หน้าไหนบ้างที่ Title และ Descrition มีการซ้ำกัน หน้าไหนบางที่มีเนื้อหาซำ้กันทำให้เกิด Duplicated Content แต่ไม่มีการแจ้ง Google เป็นต้น

- Rank Tracker : รีพอร์ทนี้ใช้สำหรับการติดตาม Track อันดับของ Keywords ทั้งหมดที่เราสนใจ ว่าอันดับมีการเพิ่มขึ้น หรือลดลงเท่าไรจากวันก่อนหน้า 1 วัน 7 วัน 30 เป็นต้น ทำให้เราเห็น Performance ของการทำ SEO แบบย้อนหลังได้

- Content Explorer : รีพอร์ทนี้เมื่อเราใส่ Topic Keyword เข้าไป Ahrefs จะแสดงข้อมูลให้เห็นว่ามีเว็บไซต์อะไรบ้างที่เขียนเกี่ยวกับ Topic นั้น และเขียนในหัวข้ออะไร ด้วยการลิสต์ Title และ Description ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Topic ออกมา ในเชิงของการหา Topic สำหร้บใช้เป็นไอเดียตั้งต้นในการเขียนคอนเทนต์ รีพอร์ทนี้ถือว่าให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก


ที่มา: SEO WINNER



ความคิดเห็น

  1. หางาน ลำปาง รถรับจ้างชลบุรี บางแสน เมืองพัทยา บริการรับส่งสินค้าทั่วประเทศ ขนย้ายสิ่งของทุกประเภท ด้วยทีมงานคุณภาพ รับประกันความประทับใจ เราพร้อมที่จะช่วยแบ่งเบาภาระต่างๆ ในการขนย้ายของคุณให้เป็นเรื่องง่ายๆ ในราคาสบายกระเป๋า

    ตอบลบ
  2. รับทำเว็บไซต์ ตรัง เว็บไซต์คือตัวแทนธุรกิจ ที่นำเสนอสินค้าและบริการให้เป็นที่รู้จักได้ตลอด 24 ชั่วโมง บริการรับทำเว็บไซต์ รองรับการใช้งานบนมือถือ แท็บเล็ต พีซี บริการ รับทำเว็บไซต์ ราคาถูก ค้นหาง่าย

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เช็กกันหรือยัง? Top 5 เทรนด์ SEO ในปี 2022

  เราต่างทราบกันดีว่า Search Engine Optimization หรือที่เรียกกันติดปากว่า SEO นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรา สิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO รู้ดีคือ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอ เพราะกลยุทธ์ที่เก่ากว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่กลยุทธ์ที่ล้าสมัยบางอย่าง เช่น การใช้คำหลักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าแนวโน้ม SEO ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2022 มีอะไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ! 1. ปัญญาประดิษฐ์จะมีบทบาทมากขึ้นใน SEO ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาออนไลน์ AI ก็จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ SEO ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ AI algorithm RankBrain ของ Google เนื่องจากสิ่งนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญที่สุดของ Google (search engine results pages) ในปี 2022 เพราะตั...

BoomTharis เผยความท้าทายการทำ VDO Content

  นาทีนี้ต้องบอกว่าเขาคือชายหนุ่มที่ Hot ที่สุดของวงการ Influencer ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากชายที่ชื่อ “บูมธริศ” BoomTharis หรือ “ธริศร ธรณวิกรัย” ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเขาในมุมสบายๆ ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่ก่อนมาเป็น Youtube Creator ชื่อดัง จนกระทั่งถึงวันนี้ ที่มียอดซัปสไครบน Youtube Channel อยู่ที่ 1.18 ล้านคน และผู้ติดตามใน Facebook 5.9 แสนฟอลโลว์เวอร์ กับภาพลักษณ์ของ “บูมธริศ” กลายเป็นโลโก้ของความ Luxury ไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เรียบง่าย สุภาพ ออกจะติดขี้อายนิดๆ ด้วย และที่สำคัญคือมีมุมการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่สามารถเป็นข้อแนะนำให้กับทั้ง Influencer และ Brand ได้อีกด้วย มารู้จักตัวตนของ “บูมธริศ” ชายผู้ชักชวนทุกคนมารู้จัก Lifestyle และเรื่องราวรอบตัวของเขานอกเหนือจากความ Luxury เส้นทางเริ่มต้นก่อนเปิด Youtube Channel บูมเล่าว่าจุดเริ่มต้นของเขามาจากการเป็นช่างภาพที่เว็บไซต์ Think of Living.com ก่อน จากนั้นก็เริ่มมาเป็น Editor Content เขียนคอนเทนต์ให้กับเว็บ ก่อนที่จะปรับจากบทความเป็นรูปแบบวิดีโอ โดยทำให้กับ Think of Living.com อยู่ประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมาเป็นชาแน...

จะทำอย่างไร เมื่อเจอปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google

ปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอกันบ่อยมากที่สุด โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่ได้ขยายธุรกิจมาขายของบนออนไลน์ ได้พบว่าเว็บของเราไม่สามารถทำอันดับที่ดีบน Google ได้เลย ถึงแม้ว่าจะทำการซื้อโฆษณา หรือทำ SEO แล้ว แต่ก็ยังไม่ติดอันดับ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร เว็บไซต์นิ่ง โหลดช้า ถ้าหากหัวข้อ หรือลิงก์ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมีการกดเข้าไปแล้ว แต่กลับไปต่อไม่ได้ หรือโหลดช้า ไม่ว่าจะเพราะใช้ภาพใหญ่เกินไป ทำกราฟฟิกมากเกินไปก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาด้านเทคนิคที่ต้องตระหนักเป็นอันดับแรกสุดเสมอ ดังนั้นเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่าย เพื่อขายสินค้า และบริการเป็นหลัก ควรต้องระวังในเรื่องนี้อย่างมาก ขาด Keywords ที่จำเป็น เนื่องจากโครงสร้าง SEO Content นั้น หัวใจสำคัญคือต้องมี Focus Keyword ซึ่งถือว่าเป็น "คำหลัก" เลย เป็นการค้นหาที่ Google ต้องการมากที่สุด ถ้าหากเราขาดตรงนี้ หรือมีไม่มากพอใน Content นั้นๆ การค้นหาก็จะทำได้ยาก สิ่งที่ควรมีก็คือความชัดเจน เพื่อบอกว่าเว็บของเราเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร และขายอะไร อาจจะมีหลายครั้งที่ Content ของเว็บเร...