ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มาทำความรู้จักกับ Evergreen Content -สำคัญอย่างไรกับ SEO

ทุกวันนี้หลายแบรนด์ และหลายเพจมุ่งเน้นกันทำแต่ Content ตามกระแสแบบลงวันต่อวัน โดยเฉพาะ Content จำพวก Facebook Post  / Instagram Post ซึ่งเนื้อหาพวกนี้พอเวลาผ่านไปก็ไปจมลง Feed ด้านล่างจนหมด หาอ่านไม่ได้ ไม่คงทน  ดังนั้นวันนี้ทางเราจะมาเล่าถึงประเภทเนื้อหาที่ Value คงทนประเภทนึงที่เรียกว่า Evergreen Content ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เนื้อหาประเภทนี้ก็จะยังสดใหม่อยู่ตลอดเวลาค่ะ


มาทำความรู้จักกับ Evergreen Content -สำคัญอย่างไรกับ SEO


ซึ่งก็จะมีความสำคัญกับเว็บไซต์ หรือบล็อก เพราะการที่มีคอนเทนต์ที่เป็น Evergreen Content ไว้ สามารถเก็บเป็นบทความที่คนจะมาอ่านเมื่อไหร่ก็ได้ ทำให้มีโอกาสที่คนจะเสิร์ชเจอบทความเราได้มากเช่นเดียวกัน นอกจากนี้บางทีอาจมีการนำบทความกลับมารีโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย

  • ทำไม Evergreen Content ถึงสำคัญ?

อ่านมาถึงตรงนี้นักการตลาดคงเริ่มเห็นภาพและเข้าใจมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ต่อไปเรามาดูกันว่า แล้วเนื้อหาประเภทนี้มันสำคัญอย่างไร ทำไมในฐานะนักการตลาดสายคอนเทนต์ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ?

1. ช่วยกระตุ้น SEO Rankings
ด้วย Character เรื่องคุณค่า และการที่กาลเวลาทำอะไรไม่ได้ ทำให้ความต้องการของคนที่อยากจะรู้เรื่องนี้นั้นมีอยู่ตลอด ทำให้มีค่ามากในระยะยาว และเมื่อคนอยากรู้เรื่องนี้ก็จะทำการค้นหา ทำให้โพสต์เนื้อหาประเภทเอเวอร์กรีนนั้นต่อให้ลงไปหลายปีแล้ว ก็ยังมีโอกาสเยอะมากที่ยังจะขึ้น Top Search ในหน้าแรกๆ เพราะความต้องการที่เข้ามาค้นหาอยู่บ่อยครั้ง ช่วยให้ระดับ SEO ในระบบ Search Engine นั้นดีขึ้นแบบไม่ต้องซื้อโฆษณาใดๆ ดังนั้นขณะเขียนเนื้อหาประเภทนี้จึงสำคัญอย่างมากในการเลือกใช้ Keywords ที่คนจะคนหาและคอย Optimize มันตลอดเพื่อให้มั่นใจว่าคนเจอเนื้อหาความรู้นี้ของเราแน่ถ้าเค้ากำลัง Research เรื่องนี้อยู่ค่ะ

2. ช่วยเพิ่ม Traffic
จากข้อที่แล้ว เพราะคนต้องการอยากอ่าน อยากรู้เยอะ ทำให้เนื้อหานั้นถูกกดอ่านอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Website Traffic ก็เพิ่มขึ้นด้วยตามลำดับ ยิ่งมีคนเลือกอ่านบทความความรู้ของเรามากขึ้นจน Ranking สูงขึ้นเท่าไร แนวโน้มที่คน Search หาเรื่องเดียวกันแล้วจะเลือกอ่านจากเว็บของเราก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วยจน Traffic ไหลเข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ 

3. ช่วยเพิ่ม Leads

เมื่อมี Ranking ดีแล้ว Traffic ดีตามก็ย่อมนำพามาซึ่ง Leads ลูกค้า คนอ่าน คนติดตามใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วย โพสต์แนวความรู้ที่ไม่มีวันสลาย ก็ได้รับ SEO ค่อนข้างดีเลย แม้จะลงไปปีที่แล้ว ปีนี้ก็ยังมีคนเข้ามาอ่านอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วันด้วย ทำให้เพจ Facebook ของเราก็มีคนเข้ามากด Follow หรือ Like อยู่เรื่อยๆ

  • ข้อดีของ  Evergreen Content

- ไม่ต้องตามกระแส ไม่ต้องทำตามกระแสไวรัล หรือเทรนด์สั้นๆ ที่ต้องใช้ความเร็วสูง
- คุณค่าที่สร้างต่อคอนเทนต์นั้นมีมาก
- คุณเลือกคีย์เวิร์ด และทำคอนเทนต์ดีๆ โอกาสที่คอนเทนต์ของคุณจะติดหน้าแรกบน Search Engine นั้นก็จะมีมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คนเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นตามไปด้วย

  • ข้อด้อยของ  Evergreen Content

- ใช้เวลานาน
- ทำยาก การค้นคว้า ค่อนข้างเยอะ

- ไม่ได้พลังหนุนของมวลชน คอนเทนต์แบบ Evergreen นั้นอยู่เหนือกาลเวลา เพราะฉะนั้นมันอาจจะไม่ได้เป็นกระแส หรือเรื่องราวที่คนจำนวนมากกำลังสนใจอยู่ 


ที่มา: SEO WINNER

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เช็กกันหรือยัง? Top 5 เทรนด์ SEO ในปี 2022

  เราต่างทราบกันดีว่า Search Engine Optimization หรือที่เรียกกันติดปากว่า SEO นั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามายังแพลตฟอร์มออนไลน์ของเรา สิ่งหนึ่งที่คนทำ SEO รู้ดีคือ SEO มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราจำเป็นต้องติดตามเทรนด์อยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่ากลยุทธ์ของเรามีประสิทธิภาพมากพอ เพราะกลยุทธ์ที่เก่ากว่าไม่เพียงแต่ไม่ได้ผลในปัจจุบันเท่านั้น แต่กลยุทธ์ที่ล้าสมัยบางอย่าง เช่น การใช้คำหลักมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อ SEO ด้วยซ้ำ สิ่งนี้ทำให้เราจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มล่าสุดอย่างต่อเนื่อง หากสงสัยว่าแนวโน้ม SEO ที่จะมีผลกระทบมากที่สุดในปี 2022 มีอะไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ! 1. ปัญญาประดิษฐ์จะมีบทบาทมากขึ้นใน SEO ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงเปลี่ยนแปลงวิธีที่ผู้คนโต้ตอบกับเนื้อหาออนไลน์ AI ก็จะเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลยุทธ์ SEO ด้วยเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือ AI algorithm RankBrain ของ Google เนื่องจากสิ่งนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยการจัดอันดับที่สำคัญที่สุดของ Google (search engine results pages) ในปี 2022 เพราะตั...

BoomTharis เผยความท้าทายการทำ VDO Content

  นาทีนี้ต้องบอกว่าเขาคือชายหนุ่มที่ Hot ที่สุดของวงการ Influencer ซึ่งเป็นใครไม่ได้นอกจากชายที่ชื่อ “บูมธริศ” BoomTharis หรือ “ธริศร ธรณวิกรัย” ซึ่งวันนี้เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับเขาในมุมสบายๆ ถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่ก่อนมาเป็น Youtube Creator ชื่อดัง จนกระทั่งถึงวันนี้ ที่มียอดซัปสไครบน Youtube Channel อยู่ที่ 1.18 ล้านคน และผู้ติดตามใน Facebook 5.9 แสนฟอลโลว์เวอร์ กับภาพลักษณ์ของ “บูมธริศ” กลายเป็นโลโก้ของความ Luxury ไปแล้ว แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เรียบง่าย สุภาพ ออกจะติดขี้อายนิดๆ ด้วย และที่สำคัญคือมีมุมการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจที่สามารถเป็นข้อแนะนำให้กับทั้ง Influencer และ Brand ได้อีกด้วย มารู้จักตัวตนของ “บูมธริศ” ชายผู้ชักชวนทุกคนมารู้จัก Lifestyle และเรื่องราวรอบตัวของเขานอกเหนือจากความ Luxury เส้นทางเริ่มต้นก่อนเปิด Youtube Channel บูมเล่าว่าจุดเริ่มต้นของเขามาจากการเป็นช่างภาพที่เว็บไซต์ Think of Living.com ก่อน จากนั้นก็เริ่มมาเป็น Editor Content เขียนคอนเทนต์ให้กับเว็บ ก่อนที่จะปรับจากบทความเป็นรูปแบบวิดีโอ โดยทำให้กับ Think of Living.com อยู่ประมาณ 4-5 ปีก่อนจะมาเป็นชาแน...

จะทำอย่างไร เมื่อเจอปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google

ปัญหาเว็บไซต์ไม่ติด Google ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอกันบ่อยมากที่สุด โดยเฉพาะเจ้าของกิจการที่ได้ขยายธุรกิจมาขายของบนออนไลน์ ได้พบว่าเว็บของเราไม่สามารถทำอันดับที่ดีบน Google ได้เลย ถึงแม้ว่าจะทำการซื้อโฆษณา หรือทำ SEO แล้ว แต่ก็ยังไม่ติดอันดับ ก่อนอื่นเรามาดูกันว่า ปัญหาเหล่านี้มีอะไรบ้าง และจะแก้ไขได้อย่างไร เว็บไซต์นิ่ง โหลดช้า ถ้าหากหัวข้อ หรือลิงก์ในหน้าเว็บไซต์ของคุณมีการกดเข้าไปแล้ว แต่กลับไปต่อไม่ได้ หรือโหลดช้า ไม่ว่าจะเพราะใช้ภาพใหญ่เกินไป ทำกราฟฟิกมากเกินไปก็ตาม ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาด้านเทคนิคที่ต้องตระหนักเป็นอันดับแรกสุดเสมอ ดังนั้นเว็บที่เน้นการเข้าถึงง่าย เพื่อขายสินค้า และบริการเป็นหลัก ควรต้องระวังในเรื่องนี้อย่างมาก ขาด Keywords ที่จำเป็น เนื่องจากโครงสร้าง SEO Content นั้น หัวใจสำคัญคือต้องมี Focus Keyword ซึ่งถือว่าเป็น "คำหลัก" เลย เป็นการค้นหาที่ Google ต้องการมากที่สุด ถ้าหากเราขาดตรงนี้ หรือมีไม่มากพอใน Content นั้นๆ การค้นหาก็จะทำได้ยาก สิ่งที่ควรมีก็คือความชัดเจน เพื่อบอกว่าเว็บของเราเกี่ยวกับอะไร ทำอะไร และขายอะไร อาจจะมีหลายครั้งที่ Content ของเว็บเร...